โอ่งมังกร

untitledjar10[1]2_11jar1jar2dragondragon1dragon8jar3
เป็นที่ทราบกันดีว่า ครกหินที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศไทย ต้องยกให้ “อ่างศิลา” แห่งเมืองชลบุรี เช่นเดียวกัน หากเป็น โอ่ง ก็ไม่มีที่ไหนจะดังและดีไปกว่า โอ่งมังกร ของคนราชบุรี ที่ขึ้นชื่อจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัด และมีคนเรียกจังหวัดราชบุรีกันทั่วไปว่า “เมืองโอ่งมังกร”
แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าต้นกำเนิดของ โอ่งมังกร อันเลื่องชื่อ ณ เมืองราชบุรี มีที่ไปที่มาอย่างไร และทำไมต้องเป็น โอ่งมังกร วันนี้เราจะพาไปหาคำตอบกันครับ
ต้นกำเนิดโอ่งมังกร

จากคำบอกเล่าของคนเก่าคนแก่ในเมืองราชบุรี เล่าว่า สมัยก่อนนั้น โอ่งที่ใช้กักเก็บน้ำชั้นดี ต้องนำเข้ามาจากประเทศจีน ซึ่งเป็นแหล่งทำเครื่องปั้นดินเผา แต่หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา การนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศก็เป็นไปอย่างยากลำบากรวมถึงโอ่งด้วย จึงจำเป็นต้องผลิตใช้กันเองภายในประเทศ

โดยจุดเริ่มต้นของการทำโอ่งขายในจังหวัดราชบุรี มาจากสองสหายชาวจีน ที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานในสยามประเทศ จนได้มาพบแหล่งดินที่ราชบุรี และเห็นว่าเป็นดินดีสีแดงสามารถใช้ปั้นโอ่งได้ จึงลงทุนร่วมหุ้นกัน 3,000 บาท ก่อตั้งโรงงานทำโอ่งขนาดเล็กในปี พ.ศ.2476 ตั้งอยู่บริเวณสนามบิน ตรงข้ามโรงเรียนอนุบาลราชบุรี

ในช่วงแรก ๆ จะเน้นทำอ่าง ไห กระปุกต่าง ๆ มากกว่าโอ่ง เมื่อกิจการรุ่งเรือง โรงงานจึงขยายตัวและมีการผลิตโอ่งมากขึ้น หุ้นส่วนหลายคนเริ่มแยกตัวออกไปตั้งโรงงานเอง แต่ก็ยังอยู่ในเขตจังหวัดราชบุรี ทำให้มีโรงงานทำโอ่งกระจายอยู่หลายแห่ง
ลวดลาย โอ่งมังกร

การทำโอ่งในยุคแรก ๆ จะเป็นโอ่งไม่มีลวดลาย เรียกว่า “โอ่งเลี่ยน” แต่ต่อมามีการวาดลวดลายโดยใช้ดินขาวจากเมืองจีน และภายหลังสามารถหาดินขาวทดแทนได้ที่จังหวัดจันทบุรี และสุราษฎร์ธานี สำหรับลวดลายที่วาดบนตัวโอ่งมักจะเป็นลายมังกร เนื่องจากตามความเชื่อของคนจีน มังกร ถือเป็นสัตว์ชั้นสูง และเป็นมงคล

อีกทั้งคนไทยก็มีความเชื่อเรื่อง พญานาค ซึ่งมีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับมังกร และมีหนังสือตำราพิชัยสงครามกล่าวถึงมังกรในการจัดขบวนทัพข้ามน้ำด้วย เรียกว่า มังกรพยุหะ จึงมีการเขียนรูปมังกรคล้ายพญานาคบนตัวโอ่งออกจำหน่าย และได้รับความนิยมจนกลายเป็นสัญลักษณ์ “โอ่งมังกร”

ทั้งนี้ ลวดลายของโอ่งมังกร มีหลายแบบ โดยทั่วไปมังกรจะมีเพียง 3 เล็บ หรือ 4 เล็บ แต่ถ้าเป็นมังกรสัญลักษณ์ชั้นสูงของกษัตริย์หรือฮ่องเต้จะมี 5 เล็บ ซึ่งตามความเชื่อของจีนนั้น แบ่ง มังกร ออกเป็น 3 ชนิด คือ…

1. หลง เป็นพวกที่มีอำนาจมากที่สุด อยู่บนฟ้า

2. หลี เป็นพวกไม่มีเขา ชอบอยู่ในมหาสมุรทร

3. เจียว เป็นพวกมีเกล็ด อยู่ตามแม่น้ำ คลอง หรือถ้ำ
“โอ่งมังกร”อุตสาหกรรมพื้นบ้านที่สร้างชื่อเสียงให้แก่จังหวัดราชบุรี

จากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ ท่านว่าสมัยก่อนโอ่งที่ใช้กักเก็บน้ำชั้นดี ต้องนำเข้ามาจากประเทศจีนทั้งนั้น แต่เนื่อจากภาวะสงครามโลกคร้งที่ 2 เป็นต้นมา สินค้าจากต่างประเทศหลายอย่างไม่สามารถนำเข้าประเทศได้จึงจำเป็นต้องผลิตกันเอง

และถ้าย้อนอดีต จากคำบอกเล่าของลูกหลาน ทายาทเจ้าของโรงโอ่ง ตั้งแต่ พ.ศ.2476 นายซ่งฮง แซ่เตีย และนายจือเหม็ง แซ่อึ้ง สองสหายที่เคยทำเครื่องปั้นดินเผาที่เมืองป้งโคย ประเทศจีน อพยพมาตั้งถิ่นฐานในประเทศไทย ได้มาพบแหล่งดิน ที่จ.ราชบุรี และเห็นว่าเป็นดินที่ใช้ในการปั้นโอ่งได้ จึงเป็นที่มาของโรงโอ่ง”เถ้าแซไถ่” และโรงโอ่ง”เถ้าฮงไถ่”ผลิตโอ่งลายมังกรในเวลาต่อมา

จีนแบ่งมังกรออกเป็น 3 ชนิด คือ

1.หลง เป็นพวกที่มีอำนาจมากที่สุด ชอบอยู่บนฟ้า

2.หลี เป็นพวกไม่มีเขา ชอบอยู่ในมหาสมุทร

3.เจียว เป็นพวกมีเกล็ด อยู่ตามแม่น้ำ ลุ่มหนอง คลองหรือถ้ำ

มังกรของจีน จัดให้มีระดับ และหน้าที่แตกต่างกันไปด้วย คือ

1. มังกรฟ้า หรือ มังกรสวรรค์ (เทียนหลง) เป็นมังกรชั้นสูง มีหน้าที่คุ้มครอง ดูแลสวรรค์

2. มังกรเทพเจ้า หรือมังกรจิตวิณญาณ (เซินหลง) มีหน้าที่ทำให้เกิด ลม ฝน แก่มวลมนุษย์

3.มังกรพิภพ (ตี้หลง) มีหน้าที่กำหนดเส้นทาง ดูแล แม่น้ำ ลำธาร ห้วยหนอง คลองบึง

4.มังกรเฝ้าทรัพย์ (ฝู ซาง หลง) มีหน้าที่เฝ้าขุมทรัพย์ของแผ่นดิน

“โอ่งราชบุรี ทำไมต้องมีลายมังกร”

แต่เดิมที่ทำกันเป็นโอ่งที่ไม่มีลวดลายใดๆ เรียกว่า “โอ่งเลี่ยน” จากการที่ต้นกำเนิดโอ่งมาจากชายจีน 2 ท่านดังกล่าว เมื่อครึ่งศตวรรษมาแล้วลูกหลานจึงได้คัดเลือกลวดลายที่เป็นมงคลขึ้น เพื่อให้เกิดความรู้สึกที่ดีต่อผู้ใช้ นอกเหนือจากการพัฒนาคิดหาความงดงามเพียงอย่างเดียว แน่นอน ในที่สุดก็เลือกสรรลวดลาย”มังกร”ขึ้น ตามคติความเชื่อในวัฒนธรรมของจีน

มังกร(Dragon) เป็นสัตว์ชั้นสูง ในแต่ละประเทศก็จะมีตำนานของตัวเอง แล้วแต่ความเชื่อบ้านเราเรียกว่า “พญานาค” จะผิดแผกแตกต่างกันไปบ้างก็คงเป็นที่รูปร่าง หน้าตา ชื่อ และความเชื่อ มีหนังสือตำราพิชัยสงครามกล่าวถึง มังกร ในการจัดขบวนทัพข้ามน้ำเรียกว่า “มังกรพยุหะ” มีการเขียนรูปมังกร คล้ายพญานาค เพียงแต่เพิ่มเขาและเท้าเข้าไป บางตัวมีเกล็ด บางตัวมีลายแบบงู

ลักษณะของมังกร

โดยทั่วไปในลวดลายของโอ่งลายมังกร จะมีเพียง 3 เล็บ หรือ 4 เล็บ แต่ถ้าเป็นมังกร สัญญลักษณ์ชั้นสูง ของกษัตริย์ หรือ ฮองเต้ จะมี 5 เล็บ

เมื่อกล่าวถึง”มังกร”ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่เป็นมงคล เป็นความยิ่งใหญ่ จึงได้มีการวาดโอ่งลวดลายมังกร เพื่อเป็นศิริมงคล ความชื่นชมชื่นชอบของผู้ใช้

แต่ปัจจุบันเป็นที่น่าเสียดาย โลกเปลี่ยนแปลงไป ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปนั้น นำความเจริญของวัตถุนิยม ทุนนิยม ความไม่สะดวก หรือ จะเชยล้าสมัย ตามคำกล่าวอ้าง จะมีซักกี่บ้านกี่เรือนในปัจจุบันที่ยังนิยมใช้โอ่งลายมังกร ไว้เป็นภาชนะเก็บกักน้ำ แม้ว่าลูกหลาน ทายาทของผู้เฒ่าจีนเหล่านั้น พยายามเปลี่ยนแปลง พัฒนา รูปแบบ จากดินเผา เป็นเซรามิคซึ่งยังคงลวดลายมังกรที่ยิ่งใหญ่เพื่อความอยู่รอดของโรงงานตามแนวบรรพบุรุษ

โลกที่เปลี่ยนไป การทำโอ่งลายมังกร ซึ่งเป็นโอ่งมังกรลายเดิมๆ แบบเดิมๆนั้นจะยังคงเหลือให้เป็นความภูมิใจของลูกหลานชาวจังหวัดราชบุรีได้อีกซักกี่รุ่น หรือต่อไปจะคงเหลือแค่ตำนานไว้เล่าให้ลูกหลานฟัง

ใส่ความเห็น